fbpx

การดูแลตนเองหลังเข้ารับการรักษาข้อเข่าเสื่อม
ที่ เฮลท์ลิ้งก์คลินิก

ข้อควรปฏิบัติและคำแนะนำในการดูแลตนเอง
หลังเข้ารับการรักษาข้อเข่าเสื่อมด้วย PRP

      กระบวนการฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมหลังฉีดเกล็ดเลือด (Platelet Rich Plasma, PRP) ให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ใช้ท่าทางที่ถูกต้อง ดูแลโภชนาการ ออกกำลังกายเบาๆ และติดตามการรักษาอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ และอาจต้องรับการผ่าตัด

1. รับประทานอาหารประเภทโปรตีนจากถั่ว และจากเนื้อสัตว์

      เช่น นม หมู ไข่ ไก่ ปลา และวิตามินเสริมตามการแนะนำเพื่อให้ร่างกายมีสารอาหารเพียงพอในการบำรุงการเจริญเติบโตของเซลล์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม 

      เมื่อเกิดการบาดเจ็บ ร่างกายจำเป็นต้องนำกรดอะมิโนจากการทานโปรตีนมาใช้ในการซ่อมแซมร่างกายเป็นจำนวนมาก

      การเพิ่มปริมาณการทานโปรตีน ในระหว่างกระบวนการรักษาและหลังรักษา ยังช่วยให้คุณภาพของ PRP ดีขึ้นและร่างกายฟื้นฟูได้เป็นอย่างดี

2. ดื่มนํ้าสะอาดวันละ 2-3 ลิตร

      การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสม  จะช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นในร่างกาย ระบบการหมุนเวียนโลหิตและระบบการเผาผลาญไขมันของร่างกายจะทำงานได้ดีขึ้นตามไปด้วย

3. หลีกเลี่ยงหรือลดการดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ

      คาเฟอีน จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย กระตุ้นให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากกว่าปรกติ
ทำให้มวลกระดูกบางลง เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน และยังส่งผลต่อการดูแลฟื้นฟูภาวะข้อเข่าเสื่อมอีกด้วย

4. ลดการทาน การปรุงอาหารให้มีรสเค็ม รสจัด

      เพราะโซเดียมจะทำให้ร่างกายบวมน้ำ เพิ่มอาการอักเสบ

5. ลดการทานอาหาร ประเภทของหวาน ของมัน ของทอด หรืออาหารที่มีไขมันสูง

      เพื่อสุขภาพองค์รวม

6. งด หรือ ลดกิจกรรมที่ใช้กำลังขา หรือใช้กำลังในบริเวณที่รักษา

      งดการยกของหนัก งอขาบ่อย หรือออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 1-3 วันแรกหลังการรักษา

7. ประคบเย็นบริเวณที่ทำการรักษา 1-2 วัน

      เพื่อลดอาการอักเสบ

8. ทำกายบริหาร หลังผ่านการรักษาไปแล้ว 1-3 วัน

      หลังการรักษา 1-3 วัน ควรทำกายบริหารหรือออกกำลังกายเบาๆตามคำแนะนำของผู้ชำนาญการอย่างน้อยวันเว้นวัน เพื่อยืดเหยียดเส้นเอ็นและมัดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ

ข้อปฏิบัติหลังการทำกายภาพบำบัดข้อปฏิบัติหลังการให้วิตามินผ่านทางหลอดเลือด (IV Therapy)

1. พักผ่อนให้เพียงพอ

      เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินและนำไปซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มที่

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

    อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อให้วิตามินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

  เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน เเละหลีกเลี่ยงอาหารพวกหมักดอง

4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ 1-2 วัน

      เนื่องจากเเอลกอฮอล์มีผลต่อประสิทธิภาพต่อการทำงานของวิตามิน

5. อาจมีอาการปวดบริเวณที่ให้สารน้ำเเละวิตามิน

    โดยปกติไม่เกิน 3-4 วัน หากมีอาการปวดสามารถประคบเย็นหรือรับประทานยาเเก้ปวด

6. สังเกตุอาการผิดปกติบริเวณที่ให้สารน้ำหรือตำแหน่งที่ให้วิตามิน

      สังเกตุอาการผิดปกติบริเวณที่ให้สารน้ำหรือตำเเหน่งที่ให้วิตามิน หากมีข้อบ่งชี้ เช่น อาการปวด บวม เเดง ร้อน มีหนองไหล ร่วมกับมีไข้ ให้รีบพบแพทย์ทันที

ข้อปฏิบัติหลังการทำกายภาพบำบัด

1.เลี่ยงการออกกำลังกายหนักประมาณ 1-2 วัน

      เลี่ยงการออกกำลังกายหนักประมาณ 1-2 วันเนื่องอาจจะมีอาการระบมได้

2.หลังจากทำกายภาพบำบัด 1-2 วันสามารถเริ่มออกกำลังกายเบาๆได้

      หลังจากทำกายภาพบำบัด 1-2 วันสามารถเริ่มออกกำลังกายเบาๆได้ เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

3.ประคบเย็น 15-20 นาที บริเวณที่มีอาการปวด

      หลังทำกายภาพบำบัดหากมีอาการปวดหรือระบมสามารถใช้การประคบเย็น 15-20 นาที บริเวณที่มีอาการได้

4.หากมีอาการปวดตึงสามารถยืดกล้ามเนื้อตามตามท่าที่นักกายภาพบำบัดให้

      หลังจากทำกายภาพบำบัด 1-2 วันหากมีอาการปวดตึงสามารถยืดกล้ามเนื้อตามตามท่าที่นักกายภาพบำบัดให้และเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นได้

    นอกจากนี้ ควรหารองเท้าที่เหมาะสม และระวังอาการผิดปกติ การทำกายภาพตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ และหากมีอาการไม่ปกติควรรีบติดต่อแพทย์โดยทันที

Facebook
Twitter

ปรึกษาทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ

Health Care+

กรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาอาการด่วน

ปี
Doctor_Fukit