7 ขั้นตอนสำคัญในการเตรียมตัว
ก่อนรักษาข้อเข่าเสื่อม ด้วย PRP
การรักษาข้อเข่าเสื่อมด้วย PRP หรือ Platelet Rich Plasma (พลาสมาที่มีเกล็ดเซลล์เข้มข้น) กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดและฟื้นฟูข้อเข่า มาดูกันว่าคุณควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนเข้ารับการรักษา
1.ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางให้ละเอียด
สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือการพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินความเหมาะสมในการรักษา แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ทั้งการถ่ายภาพรังสี การทำ MRI และการตรวจพิเศษอื่นๆ เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของภาวะข้อเข่าเสื่อม พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอนการรักษา ระยะเวลาการฟื้นตัว และการดูแลตัวเองหลังการรักษา

2.ตรวจสุขภาพให้ครบถ้วน
การตรวจสุขภาพก่อนการรักษามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายและป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยต้องตรวจการทำงานของตับและไต ประเมินระบบภูมิคุ้มกัน ตรวจวัดค่าการแข็งตัวของพลาสมา และตรวจหาโรคติดเชื้อต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการรักษา

3.จัดการเรื่องยาและอาหารเสริม
ต้องหยุดรับประทานยาและอาหารเสริมที่อาจส่งผลต่อการรักษา โดยเฉพาะยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของพลาสมา เช่น ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาสมุนไพรบางชนิด และวิตามินบางประเภท โดยแพทย์จะกำหนดระยะเวลาการหยุดยาที่เหมาะสมเป็นรายกรณี

4.เตรียมร่างกายก่อนวันรักษา
การเตรียมร่างกายที่ดีจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด คุณควร:
- งดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการรักษา
- พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนการรักษา
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ 24-48 ชั่วโมงก่อนการรักษา
- ดื่มน้ำให้เพียงพอในวันก่อนการรักษา (ยกเว้นช่วงที่ต้องงดน้ำ)
5.เตรียมพร้อมด้านจิตใจ
ความพร้อมทางจิตใจมีความสำคัญไม่แพ้ความพร้อมทางร่างกาย คุณควร:
- ทำความเข้าใจขั้นตอนการรักษาให้ชัดเจน
- เตรียมคำถามที่ต้องการสอบถามแพทย์
- จัดการความคาดหวังให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
- วางแผนการพักฟื้นหลังการรักษา
6.จัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่บ้าน
การเตรียมบ้านให้พร้อมสำหรับการพักฟื้นเป็นสิ่งสำคัญ ควรจัดเตรียม:
- พื้นที่พักผ่อนที่สะดวกและปลอดภัย
- อุปกรณ์ช่วยเดินหากจำเป็น
- จัดวางสิ่งของให้หยิบใช้ได้สะดวก
- ปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยจากการลื่นล้ม

7.จัดเตรียมผู้ดูแล
การมีผู้ดูแลหลังการรักษาเป็นสิ่งจำเป็น ควรเตรียม:
- ประสานงานกับญาติหรือผู้ดูแลล่วงหน้า
- วางแผนการเดินทางกลับบ้าน
- จัดตารางเวลาการดูแลให้ชัดเจน
- เตรียมหมายเลขติดต่อฉุกเฉิน