fbpx

PRP - Platelet-Rich Plasma therapy

PRP คืออะไร ?

พลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น (Platelet-Rich Plasma: PRP) คือการนำเกล็ดเลือดที่ได้จากเลือดของผู้ป่วยเองมาทำให้มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเกล็ดเลือดเป็นส่วนประกอบของเลือดที่มีบทบาทสำคัญในการแข็งตัวของเลือดและการสมานแผลของเนื้อเยื่อ เกล็ดเลือดมีปัจจัยการเจริญเติบโต (growth factors) และโปรตีนที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพอื่น ๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์และการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ

พลาสมา (Plasma) ยังประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นต่อการอยู่รอดของเซลล์ เช่น:

  • สารอาหาร

  • วิตามิน

  • ฮอร์โมน

  • อิเล็กโทรไลต์

  • ปัจจัยการเจริญเติบโต (เช่น IGF – Insulin-like Growth Factor และ HGF – Hepatocyte Growth Factor)

  • โปรตีน

ในบรรดาโปรตีนเหล่านี้ โปรตีนในพลาสมาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการแข็งตัวของเลือดมีบทบาทสำคัญ เพราะสามารถก่อให้เกิดพอลิเมอร์ไฟบริน (fibrin polymer) ซึ่งเป็นโครงร่างใยโปรตีนที่ช่วยในการเคลื่อนย้ายของเซลล์และการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ

การเตรียม PRP ทำอย่างไร?

วัตถุประสงค์: ใช้เกล็ดเลือดของผู้ป่วยเองเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูในเนื้อเยื่อข้อ

ความถี่ในการฉีด: 1–3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกันเป็นสัปดาห์ และสามารถทำซ้ำได้ทุก 6–12 เดือนหากได้ผล

ข้อดีของ PRP

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

  • เร่งกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อ

  • ลดการอักเสบ

  • ส่งเสริมการฟื้นฟูในเส้นเอ็น เอ็นยึด กล้ามเนื้อ และข้อต่อ

  • ใช้ในทางเวชศาสตร์ความงาม เช่น ปลูกผม ฟื้นฟูผิวหน้า และรักษารอยแผลเป็นจากสิว

ข้อดีของการรักษาด้วย PRP

  • ใช้เลือดของผู้ป่วยเอง จึงมีความเสี่ยงต่อการแพ้น้อยมาก

  • เป็นหัตถการที่ไม่รุนแรง

  • ระยะเวลาการฟื้นตัวสั้นกว่าการผ่าตัด

ข้อควรพิจารณา

  • ผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และยังต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ

  • การรักษาอาจไม่ครอบคลุมโดยประกันสุขภาพ