
PRP - Platelet-Rich Plasma therapy

PRP คืออะไร ?
พลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น (Platelet-Rich Plasma: PRP) คือการนำเกล็ดเลือดที่ได้จากเลือดของผู้ป่วยเองมาทำให้มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเกล็ดเลือดเป็นส่วนประกอบของเลือดที่มีบทบาทสำคัญในการแข็งตัวของเลือดและการสมานแผลของเนื้อเยื่อ เกล็ดเลือดมีปัจจัยการเจริญเติบโต (growth factors) และโปรตีนที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพอื่น ๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์และการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ
พลาสมา (Plasma) ยังประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นต่อการอยู่รอดของเซลล์ เช่น:
สารอาหาร
วิตามิน
ฮอร์โมน
อิเล็กโทรไลต์
ปัจจัยการเจริญเติบโต (เช่น IGF – Insulin-like Growth Factor และ HGF – Hepatocyte Growth Factor)
โปรตีน
ในบรรดาโปรตีนเหล่านี้ โปรตีนในพลาสมาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการแข็งตัวของเลือดมีบทบาทสำคัญ เพราะสามารถก่อให้เกิดพอลิเมอร์ไฟบริน (fibrin polymer) ซึ่งเป็นโครงร่างใยโปรตีนที่ช่วยในการเคลื่อนย้ายของเซลล์และการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ
การเตรียม PRP ทำอย่างไร?
วัตถุประสงค์: ใช้เกล็ดเลือดของผู้ป่วยเองเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูในเนื้อเยื่อข้อ
ความถี่ในการฉีด: 1–3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกันเป็นสัปดาห์ และสามารถทำซ้ำได้ทุก 6–12 เดือนหากได้ผล

ข้อดีของ PRP
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เร่งกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อ
ลดการอักเสบ
ส่งเสริมการฟื้นฟูในเส้นเอ็น เอ็นยึด กล้ามเนื้อ และข้อต่อ
ใช้ในทางเวชศาสตร์ความงาม เช่น ปลูกผม ฟื้นฟูผิวหน้า และรักษารอยแผลเป็นจากสิว
ข้อดีของการรักษาด้วย PRP
ใช้เลือดของผู้ป่วยเอง จึงมีความเสี่ยงต่อการแพ้น้อยมาก
เป็นหัตถการที่ไม่รุนแรง
ระยะเวลาการฟื้นตัวสั้นกว่าการผ่าตัด
ข้อควรพิจารณา
ผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และยังต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ
การรักษาอาจไม่ครอบคลุมโดยประกันสุขภาพ